8/21/2558

ตะกรุดมหาจักรพรรดิ์ตราธิราช



สำนักประดู่ทรงธรรม
ในการสร้างตะกรุดมหาจักรพรรดิ์ตราธิราชนี้นับเป็นการสร้างที่ยากแสนยาก ตามตำราของวัดประดู่ทรงธรรมซึ่งบัญญัติโดยสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้วนั้น พิธีกรรมการสร้างตะกรุดมหาจักรพรรดิ์ตราธิราชนั้นทำยากมาก
      โดยกำหนดจะต้องตั้งประรำพิธีในพระอุโบสถและใช้อุปกรณ์มากเป็นที่สุดเฉพาะตัวตะกรุดต้องใช้ แผ่นทองแดงหนา 2 แผ่นลงอักขระวิเศษทั้งหน้าหลังรวมแล้ว ๔ ด้าน ต้องตั้งมณฑลพิธีใหญ่โตมโหฬาร ดาดเพดานด้วยผ้าขาวบริสุทธิ์ แวดล้อมด้วยแผงราชวัติ ฉัตรเศวตมงคล ธงสามชาย พร้อมสายสิญจน์ที่ชักโยงขึ้นเป็นองค์ยันต์ พระยันต์นี้เป็นยันต์ ๑๐๘ ตา (ยันต์ตารางสี่เหลี่ยม) ลงด้วยคาถาอิติปิโสรัตนมาลา
      ปะรำพิธีต้องทำอาสนะยกเป็นชั้นไปพอที่พระสงฆ์นั่งได้ ๑๐๘ รูป เพราะจะต้องอาราธนาพระเถระคณาจารย์ที่มีพุทธาคม ไสยเวทวิทยาคมและพลังจิตตานุภาพสูงให้ได้ ๑๐๘ รูป เพื่อเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมพระปริตรและบทบูชานพเคราะห์ อีกทั้งพุทธาคมศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
      กรรมวิธีการสร้าง ประกอบด้วยพระยันต์ศักดิ์สิทธิ์ และอักขระวิเศษมากมาย ตัวยันต์ประกอบด้วย ๑๐๘ อักขระ โดยแต่ละอักขระคือ ๑ พระคาถา โดยมี พระพุทธคุณ ๕๖ พระธรรมคุณ ๓๘ และพระสังฆคุณ ๑๔ รวมเป็น ๑๐๘ พระคาถา (อิติปิโสรัตนมาลา)
      ขณะที่ลงพระยันต์อันศักดิ์สิทธิ์และอักระมหาวิเศษต่างๆนั้น พระสงฆ์แต่ละรูปจะสวดพระคาถาอิติปิโสรัตนมาลาแต่ละบทจนครบ ๑๐๘ บท รวมทั้ง พระทวาทสปริตต์ทั้งหมด ๑๗ ตำนาน สำเร็จจนจบ ๑๐๘ พระคาถาด้วยกัน แล้วจึงสวดคาถามงคลจักรวาลใหญ่ ธรรมจักรกัปวัฒนสูตร คาถาพระอะสีติมหาศาวก และมงคลจักรวาลน้อย
พิธีมหาจักรพรรตราธิราช  จัดว่าเป็นมหาพิธีกรรมที่สำคัญยิ่งที่รวมเอาพิธีกรรมที่สำคัญมาไว้ในมหาพิธีนี้  เช่นพิธี สวดพระปริตรนพเคราะห์  พิธีสวดภาณวาร  พิธีสวดพุทธาภิเศก  พิธีสวดทิพยมนต์  (สวดชัย)  พิธีสวดพระคาถาอิติปิโสรัตนมาลา เพราะเป็นพิธีสำหรับประกอบขึ้นเพื่อสร้างพระยันต์วิเศษมหาจักรพรรตราธิราชจารึกลงในแผ่นโลหะ ซึ่งประกอบขึ้นด้วยอำนาจของพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ

    พิธีนี้เมื่อจะประกอบขึ้นจำเป็นจะต้องอาราธนาพระสงฆ์ อริยะเถระคณาจารย์มาร่วมประกอบพิธีเป็นจำนวนมาก  เป็นพิธีที่ถือกันว่าสำเร็จขึ้นจากอิทธิฤทธิ์และบุญญฤทธิ์ของพระมหาบุรุษที่ทรงอานุภาพบรรลุถึงสมบัติบรมจักรพรรดิ์ที่แท้จริง นั่นก็คือ  สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระมหาสาวกเท่านั้น  เพราะท่านสมบูรณ์พร้อมด้วยอริยทรัพย์และโลกียะทรัพย์  ฉะนั้น พิธีนี้เมื่อจะประกอบขึ้นจึงจำเป็นต้องนิมนต์พระอริยะเถระคณาจารย์มาให้ได้ครบ ๑๐๘ รูป โดยสมมติให้เป็นพระวิปัสสิสัมมาสัมพุทธเจ้า ๒๘ องค์พระอสีติมหาสาวก  ๘๐  องค์  รวม  ๑๐๘  องค์  เพื่อจะร่วมประกอบพิธีนี้


      ตะกรุดมหาจักรพรรดิ์นี้เป็นของสูงค่า สมควรแก่พระมหากษัตริย์ เจ้าพระยา เจ้านายชั้นสูงหรือมหาเศรษฐี คหบดี ธนบดี ในทุกยุคทุกสมัย โดยผู้ครอบครองจะต้องประพฤติตนดี มีความกตัญญู มั่นอยู่ในศีลธรรม ไม่เบียดเบียนทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่นและสังคม

แม้นจะเป็นสามัญชนธรรมดา หากได้ครอบครองบูชาและเป็นคนดี ประพฤติตนดี ทำมาหากินด้วยความสุจริต มีกตัญญูกตเวทีต่อบุพการี ครูบาอาจารย์และผู้มีพระคุณทั้งหลายแล้ว อานุภาพความศักสิทธิ์แห่งตะกรุดมหาจักรพรรดิ์นี้ จะดลบันดาลให้ผู้ศรัทธาและครอบครองได้เป็นเศรษฐีธนบดี หรือคหบดี มีทรัพย์สินเงินทอง บริวาร ที่ดินมากมาย รวมทั้งมีชื่อเสียงโด่งดัง มีโชคลาภก้อนใหญ่ ได้รับทรัพย์สมบัติ ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งใหญ่โต เป็นเจ้านายหรือ หัวหน้างานอย่างรวดเร็วไม่มีอุปสรรคใดๆมาขัดขวาง จะประสบกับความสำเร็จในทุกๆด้านไม่ว่าจะทำการใดๆ อะไร
    แม้ว่าบางคราวอาจจะติดขัดมีอุปสรรคบ้าง แต่ก็จะมีปาฏิหาริย์โดยมีเหตุการณ์หรือผู้ให้การช่วยเหลือสนับสนุนอย่างดีเสมอ จนสำเร็จสมหวังดังประสงค์ทุกประการ
    ทั้งยังคุ้มครองป้องกันผู้สวมใส่และบุคคลที่รักใคร่ ให้แคล้วคลาดพ้นจากอุปัทวเหตุ อุบัติเหตุ อุบัติภัยใดๆและภยันอันตรายต่างๆ ทั้งหลายทั้งปวง ทั้งยังปกป้องคุ้มครองโทษภัยจากอำนาจลึกลับ อาถรรพ์สิ่งชั่วร้ายต่างๆมิให้มากล้ำกรายได้ อีกทั้งดลบันดาลให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ ไร้ซึ่งโรคาพยาธิภัยต่างๆ มีความสุขสดชื่น ชุ่มชื่นใจอยู่เป็นนิจ

      หากแม้นมีผู้ที่คอยอิจฉาริษยา ใส่ร้ายป้ายสีหรือคิดร้ายปองร้าย คนเหล่านั้นก็จะมีอันเป็นไปแพ้ภัยตัวเองไปในที่สุดในระยะเวลาอันใกล้ บางรายถึงกับสูญเสียสิ้นทั้งทรัพย์สินเงินทองหมดเนื้อหมดตัว ไฟไหม้บ้านที่อยู่อาศัย ครอบครัวแตกแยก หน้าที่การงานตกต่ำ การค้าขายขาดทุน หากินฝืดเคือง ถูกโกง ถูกปล้น หน้าตาหมองคล้ำหมดสง่าราศี โรคภัยร้ายเข้าสุมรุมเร้า สูญสิ้นความหวัง หมดสิ้นความสุขความเจริญทั้งปวง

จากสมัยอยุธยาเป็นต้นมา มีการจัดสร้าง ตะกรุดมหาจักรพรรดิ์ตราธิราชที่ถูกต้องตามตำราของวัดประดู่ทรงธรรม โดยผู้ทรงวิทยาคมหรือพระอริยะเถระคณาจารย์ ตามที่มีการบันทึกไว้นั้นมีไม่กี่ครั้ง ดังนี้

ครั้งที่ ๑ สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้วเอง เพื่อถวายแด่องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อยู่ในช่วงราวๆปี พ.ศ. ๒๑๓๓ - พ.ศ. ๒๑๔๐

ครั้งที่ ๒ สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยพระพรหมมุนี วัดปากน้ำประสพ ได้สร้างถวายแด่สมเด็จพระนารายณ์มหาราช  อยู่ในช่วงราวๆปี พ.ศ. ๒๑๙๙ - พ.ศ. ๒๒๒๕

ครั้งที่ ๓ สมัยรัตนโกสินทร์ โดยได้กระทำขึ้นที่วัดประดู่โรงธรรม เพื่อถวายแด่องค์สมเด็จพระปิยะมหาราชรัชกาลที่  ๕  อยู่ในช่วงราวๆปี พ.ศ. ๒๔๑๑ - พ.ศ. ๒๔๕๓

ครั้งที่ ๔ สมัยรัตนโกสินทร์ มีการสร้างตะกรุดมหาจักรพรรดิ์ตราธิราชโดย อาจารย์เฮง ไพรวัลย์ ฆราวาสผู้ทรงวิทยาคม จอมขมังเวทย์ท่านหนึ่ง เมื่อปี ๒๔๘๔ โดยท่านได้สร้างถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ตามตำราทุกประการ

ครั้งที่ ๕ สมัยรัตนโกสินทร์ ทางวัดปรินายก  จังหวัดกรุงเทพ ก็ได้มีการจัดกระทำพิธีมหาจักรพรรดิตราธิราช  เพื่อสร้างตะกรุดนี้ขึ้น เมื่อวันที่  ๓๐  มีนาคม  พ.ศ. ๒๕๐๐

ครั้งที่  ๖ สมัยรัตนโกสินทร์ ที่พุทธอุทธยานธรรมโกศล โดยหลวงพ่อสาลีโข หรือหลวงพ่อสมภพ เตชปุญโญ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๕ ซึ่งท่านได้สร้างถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ตามตำราทุกประการอีกท่านหนึ่ง

    (ในช่วงระหว่างเวลาดังกล่าวก็มีการจัดพิธีจักรพรรดิ์ขึ้น เช่น ปี ๒๕๑๕ เพื่อสร้างพระกริ่งนเศวรแต่ไม่ได้นับไว้ที่นี่ เพราะจะนับแต่การจัดทำพิธีมหาจักรพรรดิตราธิราช เพื่อสร้างตะกรุดเท่านั้น)
ตะกรุดมหาจักรพรรดิตราธิราชของสำนักพุทธอุทธยานธรรมโกศลนี้มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์เป็นยิ่งนัก จึงไม่ค่อยพบเจอ เนื่องจากจะอยู่กับลูกศิษย์ หรือผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาท่านเป็นส่วนมาก ไม่ค่อยมีออกหมุนเวียนมากนัก

อุปเท่ห์การใช้ ให้ตั้ง นะโม 3 จบ ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย สวดบทพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ แล้วภาวนาพระคาถา ดังนี้

อิ ติ ปิ โส วิ เส เส
อิ เส เส พุท ธะ นา เม อิ
อิ เม นา พุท ธะ ดัง โส อิ
อิ โส ตัง พุท ธะ ปิ ติ อิ
(๓ จบ)


        อนึ่ง  ถ้าหากผู้ใดปรารถนาจะใคร่จำเริญในลาภและยศ  ท่านให้นำตะกรุดใส่แช่น้ำบูชาไว้  ยิ่งแช่ไว้ในขันสัมฤทธิ์  (หรือขันน้ำมนต์ที่ประกอบขึ้น ตามพิธี)  ยิ่งดี  เอาน้ำที่แช่ตะกรุดนั้นกินบ้าง  ลูบหน้าบ้าง  เอารดศรีษะ บ้าง  บำบัดโรคภัยทั้งหลาย  ทั้งจะมีอายุยืนนาน  บังเกิดลาภยศตามแต่จะถึง ปรารถนา  อธิษฐานเอาเถิดได้สำเร็จความปรารถนาทุกประการแล

        อนึ่ง  จะให้มีตบะเดชะ  ให้บูชาเอาตะกรุดมหาจักรพรรตธิราชนี้ไว้ข้างหน้า  ใครเห็นใครก็กลัว  ใครเห็นใครรักแล 

ถ้าจะเล่นการ พนันให้รูดตะกรุดนั้นมาไว้ข้างหน้า  ตั้งใจอธิษฐานเอาว่าจะต้องการเงินสัก เท่าไหร่  ก็ให้พึงเอาเพียงนั้นเถิด  พึงตั้งมั่นอยู่ในความสัตย์  ให้ตั้ง ความปรารถนาทุกอย่าง จะไม่แพ้แก่ใครในการเล่นการพนันเลย

        อนึ่ง  ถ้าจะให้ทำมาค้าขึ้น  เพื่อที่จะขายสินค้าได้คล่อง ๆ ให้เอาตะกรุดนี้แช่ทำน้ำมนต์  เอาน้ำมนต์นั้นประพรมสินค้า  ก็จะซื้อง่ายขาย คล่องแล 

ถึงแม้ว่าผีเข้าคนอยู่ก็ดี  เกิดโรคภัยไข้เจ็บทุกขเวทนาต่าง  ๆ ก็ดี  ให้เอาตะกรุดแช่น้ำในขันสัมฤทธิ์ แล้วเสกด้วยคาถาดังนี้

สัพเพเทวา ปิสาเจวะ อาฬวะกา ทะโย ปิจะขัคคัง
ตาลปัตตัง ทิสวา นะโมพุทธายะ สัพเพ ยักขา ปลายันติ
(ว่า 3 ครั้ง)

แล้วเอาน้ำมนต์ที่แช่ตะกรุดนี้ ประพรมใส่ พวกผีร้ายภูติพราย จะอยู่ไม่ได้ต้องหนีออกไปสิ้นมิอาจจะอยู่ได้เลยเป็นอันขาด

ทั้งโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ก็จะบรรเทาสูญหายถอนแก้กระทำย่ำยีถูกเสน่ห์ยาแฝดหายสิ้น ทุกประการ  ใช้ประพรม บ้านเรือนปัดเป่าตัวเสนียดจัญไรต่าง ๆ หายสิ้น กันฟ้ากันไฟก็ได้  ถ้าหากถูกคดีเป็นถ้อยร้อยความ  ให้เอาน้ำมนต์แช่ ตะกรุดนี้อาบรด จะมีชัยชนะแก่คู่ความแล

        อนึ่ง  ถ้าจะกันโจรผู้ร้ายมิให้ทำอันตรายแก่เรา  ให้เอากรวดหรือทรายมาแล้ว เอาน้ำมนต์ที่แช่ตะกรุดนี้ประพรมบริเวณบ้านเรา  อธิษฐานขอเอาบารมีพระพุทธ คุณ  พระธรรมคุณ  พระสงฆ์คุณ  จงมาช่วยคุ้มครองป้องกันอันตรายบรรดาคนคิด ร้ายที่เข้ามาเหยียบถูกเอากรวดทรายที่หว่านโปรยไว้  จะบันดาลให้มีอันเป็นไป ต่าง ๆ นานา มิสามารถที่จะทำร้ายเราได้เลย

        ตะกรุดดอกนี้อยู่กับผู้ใด  ผู้นั้นเจริญในลาภยศมิรู้ขาดเลย  ถึงแม้จะมีอุปสรรคอันตรายบาปเคราะห์รบกวนสักเท่าไหร่ก็ดี  ก็สามารถจะฝ่าฟันไปได้  มิรู้ยากรู้จนเลย  เจริญในลาภยศทุกประการ  คุ้มกัน สรรพเสนียดจัญไรสารพัด  คุณไสยนานาประการ  นำติดตัวไปสารทิศใดก็ดีข้าศึก ศัตรูพ่ายแพ้ไปสิ้น  มิอาจจะทำอันตรายแก่เราได้  เป็นที่รักที่ชอบแก่คนทั้ง หลาย 


          แม้เข้าประจัญด้วยข้าศึกศัตรูก็บันดาลให้เกิดมีตบะเดชะเป็นมหาจังงัง แก่ข้าศึกทั้งมวล  อย่าว่าแต่ศึกมนุษย์เลย  ถึงเทพยดาก็ครั่นคร้ามแลอุปเท่ห์ ของตะกรุดมหาจักรพรรตราธิราชนี้มีสารพัดใช้ได้ทุกประการ  ทั้งทรงอิทธิฤทธิ์และมีมหิทธานุภาพเหลือจะคณานับ  จงประสิทธิทุกประการแล ตามแต่จะใช้เถิด

 สายพราย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น